ประโยชน์ของโคคิวเทน
1. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจขาดเลือดหรือภาวะหัวใจล้มเหลวจากเลือดคั่ง
ช่วยในการทำงานของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ
2. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ลดความเสี่ยงโรคหัวใจขาดเลือดหรือภาวะหัวใจล้มเหลวจากเลือดคั่ง
ช่วยในการทำงานของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ
3. มีบทบาทสำคัญในการทำลายสารอนุมูลอิสระ
และป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
4. ลดความถี่ในการปวดหัวไมเกรนในผู้ป่วยที่มีระดับโคเอนไซม์
คิวเทนในเลือดต่ำ
5. มีส่วนช่วยในการเมตาบอลิซึมเซลล์ต่างๆ
ช่วยในการทำงานของเซลล์กล้ามเนื้อ บำรุงหัวใจและเบาหวาน
6. แอลคาร์นิทีน แอลคาร์นิทีน
เป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นเองได้ มีบทบาทในการเผาผลาญ โดยนำกรดไขมันเข้าสู่ไมโตรคอนเดรีย
ช่วยรักษาโรคหัวใจขาดเลือด หรือภาวะหัวใจล้มเหลวจากภาวะเลือดคั่ง
7. ซิตรัสไบโอฟลาโอยด์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ต่อต้านการเป็นโรคมะเร็งและโรคหัวใจ
โรคหรือภาวะที่อาจแนะนำ
• โรคหัวใจ
• เบาหวาน
• ปวดหัวไมเกรน
• ธาลัสซีเมีย
• โรคสมองเสื่อม และความจำเสื่อม
• หอบหืด
กระปุก 30 แคปซูล ราคา 600 บาท จัดส่งฟรี
เรื่องน่ารู้ของโคเอนไซม์ คิวเทน และสารอาหารที่ช่วยในเรื่องหัวใจ
โคเอนไซม์ คิวเทน (Coenzyme Q10) หรือที่เรียกกันสั้นๆ
ว่าโค-คิวแทน (Co-Q10) เป็นสารที่พบในร่างกายตามธรรมชาติ
ร่างกายต้องใช้โคเอนไซม์คิวเทนในการเจริญเติบโตของเซลล์
รวถมึงปกป้องเซลล์จากจากการถูกทำลายอันเป็นสาเหตุนำไปสู่การเป็นโรคมะเร็ง
สรุปคุณสมบัติของโคเอนไซม์ คิวเทน
- ลดความเสี่ยงในคนไข้ที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด หรือภาวะหัวใจล้มเหลวจากเลือดคั่ง
(Congestive Heart Failure) ทั้งนี้มีงานวิจัยสนับสนุนว่าการรับประทานโคเอนไซม์
คิวเทน 120 มิลลิกรัมต่อวัน
ในกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดจะช่วยลดอัตราการเป็นซ้ำ
และลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ
และในปริมาณสูงยังประโยชน์ในการผ่าตัดหัวใจโดยทำให้หัวใจทนทานต่อการขาด
เลือดและฟื้นตัวได้ดีขึ้น
- มีบทบาทสำคัญในการทำลายสารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น
ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
จึงช่วยป้องกันเรื่องหลอดเลือดหัวใจอันเกิดจากการที่แอลดีแอลโคเลสเตอรอล (LDL
Cholesterol) ถูกออกชิไดซ์ (Oxidized) ด้วยอนุมูลอิสระ (อ้างอิงที่3) และสะสมในผนังหลอดเลือด
ก่อให้เกิดการอักเสบและผนังหลอดเลือดหนาตัวขึ้นกลายเป็นพล๊าค (Plaque) หรือตะกอนในผนังเส้นเลือด เกาะที่ผนังหลอดเลือด ส่งผลทำให้หลอดเลือดแข็ง
ไม่ยืดหยุ่นและตีบตัน นำมาซึ่งปัญหาเรื่องโรคหัวใจได้
- ช่วยลดระยะเวลาที่ปวดต่อครั้ง รวมถึงลดความถี่ในการปวดหัวไมเกรน (Migraine) ทั้งนี้มีงานวิจัยที่แสดงว่า การให้กลุ่มที่เข้ารับการทดสอบ 31 คน ได้รับโคเอนไซม์ คิวเทน ปริมาณ 150 มิลลิกรัมต่อวัน
พบว่า 19 คน จาก 31 คน มีระยะเวลาที่ปวดไมเกรนในแต่ละครั้งลดลงมากกว่า 50% กล่าวคือระยะเวลาที่ปวดโดยเฉลี่ย 7.34 วันต่อเดือน
ลดลงเหลือเฉลี่ย 2.95 วันต่อเดือน
หลังจากได้รับโคเอนไซม์ คิวเทนเป็นระยะเวลา 3 เดือนและช่วยลดความถี่ในการปวดจากเดิมที่ความถี่ 4.85 เหลือ 2.81 โดยไม่มีผลข้างเคียง
- โคเอนไซม์ คิวเทน ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างพลังงานของร่างกายโดยจะช่วยในการเปลี่ยน
อาหารที่เรารับประทานเข้าไปเป็นพลังงานไมโตรคอนเดรียที่อยู่ในเซลล์ร่างกาย
ถือว่ามีบทบาทสำคัญในไมโตรคอนเดรียอันเป็นแหล่งผลิตพลังงานของเซลล์ (Key
role in mitcohondrial bioener getics) จึงพบโคเอนไซม์
คิวเทนได้มากในอวัยวะใช้พลังงานในการทำงาน มากเช่น หัวใจ ปอด และตับ
- อาจจะมีประโยชน์ในผู้ป่วยทาลัสซีเมียรุนแรง ชนิดเบต้า ทาลัสซีเมีย อี (Beta-thaiassemia/HbE) ซึ่งจะมีระดับโคเอนไซม์ คิวเทนในเลือดต่ำลงการให้โคเอนไซม์
คิวเทนทำให้ลดภาวะออกซิเดชั่นภายในเซลล์ และอาจทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
- อาจจะมีประโยชน์ในโรคทางสมอง ได้แก่ โรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ (Dementia) โรคความจำเป็นเสื่อม (Alzheimer"s disease) และโรคปาร์กินสัน (Parkinson"s disease) (อ้างอิงที่ 10) โรคหอบหืด (Bronchialasthma) อ้างอิงที่11) โรคไตเสื่อมเรื้อรัง (Tubulopathy and Chronic tubulointersticial
nephritis) (อ้างอิงที่12) แม้ว่าการวิจัยสำหรับโรคปาร์กินสัน
โรคหอบหืด และ โรคไต พบว่ายังไม่ได้ผลในการรักษา
แต่โรคเหล่านี้มีกลไกจากความเสื่อมของเซลล์ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระมีบทบาท
และพบว่าระดับโคเอนไซม์คิวเทนในเลือดต่ำลงในโรคเหล่านี้ด้วยอีกทั้งมีความ
ปลอดภัยและมีประโยชน์จากการวิจัยในระดับเซลล์และในสัตว์ทดลอง
ปัจจุบันมีงานวิจัยในคนที่มากขึ้นสำหรับโรคทางสมองเสื่อมอีกหลายชนิด
กล่าวโดยสรุป โคเอนไซม์
คิวเทนมีบทบาทสำคัญมากมายรวมถึงประโยชน์ต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ไม่ว่าจะช่วยในเรื่องหัวใจการเป็น Antioxidant ที่ทำลายอนุมูลอิสระ เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างพลังงานของเซลล์
รวมถึงช่วยในเรื่องการปวดหัวไมเกรน อาจจะมีประโยชน์ในผู้ป่วยทาลัลซีเมียรุนแรง
ชนิดเบต้าทาลัสซีเมีย อี (Betathalassemia/HbE) และอาจมีประโยชน์ในโรคทางสมองได้แก่
โรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุโรคความจำเสื่อม และโรคปาร์กินสัน ดังกล่าวมาแล้วเบื้องต้น
เนื่องจากปริมาณของโคเอนไซม์
คิวเทนที่มีในร่างกายจะลดลงตามวัยที่เพิ่มมากขึ้น การรับประทานโคเอนไซม์ คิวเทน
จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการเสริมสุขภาพ
สรุปคุณสมบัติของทอรีน (Taurine)
ทอรีนเป็นกรดอินทรีย์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมทำเป็นอาหารเสริมในต่างประเทศ
พบมากในสมอง ในหัวใจ ในจอตา และในกล้ามเนื้อ
ในน้ำนมของมนุษย์มีส่วนในการเมตาบอลิซึมเซลล์ต่างๆ
ทั้งเรื่องการคุมการทำงานของแคลเซียมในเซลล์ และการเผาผลาญน้ำตาล
ช่วยในการทำงานของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ
ปัจจุบันนิยมใช้ในเรื่องบำรุงหัวใจและบเาหวาน
ทอรีนเป็นกรดอะมิโนที่มีบทบาทสำคัญในร่างกาย
ทอรีนจะเป็นส่วนประกอบหลักของน้ำดี
ทั้งนี้มีรายงานวิจัยสนับสนุนว่าการเสริมทอรีนให้แก่ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ
ขาดเลือด หรือภาวะหัวใจล้มเหลวจากเลือดคั่ง (Congestive Heart Failure) ให้ผลที่ดีและมีความปลอดภัย
สรุปคุณสมบัติของแอล-คาร์นีทีน (L-Carnitine)
แอล-คาร์นิทีนเป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นไก้เอง
มีบทบาทในกระบวนการเผาผลาญ โดยเป็นตัวนำกรดไขมันเข้ามาสู่ไมโตคอนเดรียของเซลล์
มีงานวิจัยที่สนับสนุนว่า แอล-คาร์นิทีนมีประโยชน์ในการช่วยรักษาโรคหัวใจขาดเลือด
หรือภาวะทั้งหัวใจล้มเหลวจากเลือดคั่ง (Congestive Heart Failure)
สรุปคุณสมบัติของชิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ (Citrus Bioflavonoid)
ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์
ถือเป็นสารอาหารสำคัญจากพืชผักและผลไม้ที่เรียกว่า ไฟโตนิวเทรียนท์ (phytonutrients) ชนิดหนึ่ง
จัดเป็นแหล่งสำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งมีงานวิจัยยืนยัน
ยอมรับทั่วโลกในการต่อต้านการเป็นมะเร็งและการเป็นโรคหัวใจ