ลิงก์สมัครสมาชิก

แคลดีแมก 600 ..แคลเซียม เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน

 


หน้าที่สำคัญของแคลเซียม

1. เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันความผิดปกติของกระดูกและฟัน เช่น กระดูกแตกหักง่าย หลังโก่งงอ กระดูกเรียงรูปผิด หรือฟันหักง่าย

2. ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน ช่วยสร้างเนื้อกระดูกให้มีความแข็งแรงมากขึ้น

3. ช่วยให้การเจริญเติบโตในด้านความสูง และความแข็งแรงของเด็ก

 

แคลเซียมจำเป็นสำหรับใคร

1. วัยเด็กวัยปีทอง แคลเซียมมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและความสูง เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่่งสำหรับเด็กในช่วงวัยปีทอง ซึ่งเป็นช่วงสะสมมวลกระดูกสำหรับการเจริญเติบโต ความสูง และเพิ่มมวลกระดูกให้มีปริมาณสูงสุด

2. วัยผู้ใหญ่ หากร่างกายไม่ได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ ร่างกายจะดูดซึมแคลเซียมที่สะสมอยู่ออกมาใช้ หากไมไ่ด้รับเพียงพอเป็นประจำ แคลเซียมในกระดูกจะถูกดึงออกมาจนกระทั่งกระดูกพุน โดยหากเป็นรุนแรงแล้วจึงแสดงอาการออกมา เช่นปวดหลังเรื้อรัง หลังค่อมจากกายุบของกระดูกสันหลัง หรือกระดูกสะโพกหักทำให้เดินไมไ่ด้เหมือนเดิม ในผู้หญิงมีโอกาสเกิดโรคนี้ได้มากกว่าผู้ชายประมาณ 4 เท่า

3. คุณแม่ตั้งครรภ์ ที่ทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงขณะตั้งครรภ์นั้นก็จะทำให้ลูกในครรภ์มีกระดูกและฟันที่แข็งแรง ส่วนมากคุณหมอที่ฝากครรภ์จะแนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ทานแคลเซียมให้เพียงพอ เพราะถ้าลูกคลอดออกมาแล้วอาจจะดึงแคลเซียมจากตัวคุณแม่ไปเสริมสร้างส่วนต่างๆของร่างกายด้วย ในขณะที่ตั้งครรภ์นั้นหากคุณแม่ได้รับไม่เพียงพออาจจะเป็น ตะคริว หรือภาวะกล้ามเนื้อเกร็งในส่วนต่างๆ ของร่างกายได้

4. ผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน ในช่วง 5 ปีแรก มวลกระดูกจะลดลงอย่างรวดเร็ว จึงมีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนได้ง่าย ดังนั้น คนที่มีการสะสมมวลกระดูกตั้งแต่วัยหนุ่มสาว เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนและวัยชราจะยังมีมวลกระดูกเหลืออยู่มากกว่าคนที่่มีการสะสมกระดูกน้อย และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนในวัยสูงอายุ

 

โรคหรือภาวะที่อาจแนะนำ

ควรแนะนำทุกคนที่ดื่มนมน้อย

ผู้ที่มีอาการตะคริวบ่อย เพราะมักเป็นอาการเตือนของการขาดแคลเซียม

ผู้สูงอายุที่มีกระดูกและข้อเสื่อม

เรื่องน่ารู้ของแคลเซียม แร่ธาตุ และวิตามินต่างๆ

 

คำแนะนำเพิ่มเติม

👉รับประทานได้ ในเด็กโต (อายุกมากว่า 9ปี ที่กลืนเม็ดยาได้ ไม่อันตรายจากการติดคอ) เพราะเข้าสู่วัยรุ่น ความต้องการของแคลเซียมจะเป็น 1200 ม.ก ต่อวัน 

👉สำหรับเด็กเล็ก อายุ 3-8 ปี แนะนำให้รับประานแคลเซียมชนิดเม็ดเคี้ยว

 

รับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมหรือหลังอาหารเย็น 

แคล-ดี-แมก กระปุก 60แคปซูล ราคา 248 บาท

แคล-ดี-แมก 600 กระปุก 60แคปซูล ราคา 420 บาท

 

แคลเซียมเสริมสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน อีกทั้งป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน

·                     หน้าที่สำคัญของแคลเซียม

- เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันความผิดปกติของกระดูกและฟัน เช่น กระดูกหักง่าย หลักโก่งงอ กระดูกเรียงผิดรูป หรือฟันหักง่าย

- ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน ช่วยสร้างเนื้อกระดูกให้มีความหนาแน่นมากขึ้น

- ช่วยให้การเจริญเติบโตในด้านความสูงและความแข็งแรงของเด็กในวัยเจริญเติบโต

·                     วิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ มีคุณประโยชน์ดังนี้ (อ้างอิงที่ 1)

วิตามิน ดี 3 เสริมประสิทธิภาพในการดูดซึมแคลเซียมให้ดีขึ้น

แมกนีเซียม ในร่างกายส่วนมาก (60-70%) จะพบในกระดูกแมกนีเซียมจำเป็นสำหรับการเติบโตของกระดูก การส่งสัญญาณทางประสาท และการหดตัวของกล้ามเนื้อ การได้รับแมกนีเซียมในขนาดที่เหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง

แมงกานีส เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในการพัฒนาของกระดูกตามปกติจำเป็นสำหรับการสร้างเสริมระบบโครงร่างของร่างกาย

วิตามิน ซี เป็นวิตามินที่มีกลไกในการต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และยังช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรง ช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุต่างๆ และเสริมสร้างเซลล์ให้แข็งแรง

สังกะสี จำเป็นสำหรับการเติบโต การเจริญของระบบสืบพันธุ์ สำคัญในการสร้างกระดูกตามปกติ และช่วยในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์

ทองแดง มีความสำคัญในระบบโครงสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพันร่วมกับวิตามินซีในการสร้างอีลาสติน จำเป็นสำหรับการเผาผลาญโปรตีน และการสร้างสีของผิวหนังและสีผม

วิตามิน อี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้เซลล์เสื่อมสภาพจำเป็นต่อการเจริญและพัฒนาของเซลล์ประสาท

·                     แคลเซียมกับกระดูก

แคลเซียมเป็นธาตุที่มีมากที่สุดของร่างกาย เป็นโครงสร้างหลักของกระดูกและฟัน 

ในเด็กแคลเซียมจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและความสูง เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับเด็กในช่วง “วัยปีทอง” (Growth spurt) ซึ่งเป็นช่วงสะสมมวลกระดูกสำหรับการเจริญเติบโต และเพิ่มมวลกระดูกให้มีปริมาณสูงสุด 

สำหรับในผู้ใหญ่ หากร่างกายไม่ได้รับแคลเซียมในปริมาณที่พอเพียง ร่างกายจะดึงแคลเซียมที่สะสมอยู่ในกระดูกออกมาใช้ และหากไม่ได้รับอย่างพอเพียงเป็นประจำ แคลเซียมในกระดูกจะถูกดึงออกมามากจนกระทั่งกระดูกพรุน เปราะ ทำให้ความแข็งแรงของกระดูกลดลงจึงแตกหักได้ง่าย แม้ว่าได้รับแรงกระแทกเพียงเล็กน้อย ซึ่งอาการดังกล่าวคืออาการของ “โรคกระดูกพรุน” (Osteoporosis) โดยหากเป็นรุนแรงแล้วจึงจะแสดงอาการออกมา เช่น ปวดหลังเรื้อรังหลังค่อมจากการยุบตัวลงของกระดูกสันหลัง หรือกระดูกสะโพกหักทำให้เดินไม่ได้เหมือนเดิม ในผู้หญิงมีโอกาสเกิดโรคนี้ได้มากกว่าผู้ชายหลายเท่า (ประมาณ 4 เท่า) และผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนนั้น ในช่วง 5 ปีแรกมวลกระดูกจะลดลงอย่างรวดเร็ว จึงมีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนได้ง่าย ดังนั้น คนที่มีการสะสมมวลกระดูกมากตั้งแต่วัยเด็กถึงวัยหนุ่มสาว เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนและวัยชราจะยังมีมวลกระดูกอยู่เหลือมากกว่าคน ที่มีการสะสมมวลกระดูกน้อย และลดความเสียงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนในวัยสูงอายุ

·                     ความต้องการแคลเซียมต่อวัน

สถานการณ์เกี่ยวกับโภชนาการของแคลเซียมในประเทศไทยมีรายงานสำรวจภาวการณ์ บริโภคอาหารของประชาชนไทย พบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว คนไทยรับประทานแคลเซียมจากอาหารประจำวันได้เพียง 301 มก.ต่อวัน ซึ่งค่อนข้างต่ำ (อ้างอิงที่ 6) ขณะที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำข้อมูลสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคประจำวัน สำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป (Thai Recommended Daily Intakes-Thai RDI) (อ้างอิงที่ 7) โดยแนะนำว่า ปริมาณแคลเซียมที่ควรรับประทานต่อวันอยู่ที่ 800 มก. หรือเมื่อเทียบกับนมกล่อง(UHT) ซึ่งมีค่าปริมาณแคลเซียมอยู่ที่ 122 มก./100 มล. แล้ว (อ้างอิงที่ 8) เทียบเท่ากับการดื่มนมประมาณวันละ 650 ซีซี หรือประมาณ 3 กล่อง

อย่างไรก็ตามปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการจะเปลี่ยนแปลงตามช่วงอายุ โดยมีข้อมูลจากมูลนิธิโรคข้อในพระราชูปถัมภ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แสดงถึงรายละเอียดความต้องการแคลเซียมต่อวันของบุคคลในช่วงอายุต่างๆ ดังนี้ (อ้างอิงที่ 9)

วัย                                           ปริมาณแคลเซียมต่อวัน

เด็กเล็ก                                   600 มก.

เด็ก                                         800 มก.

วัยรุ่น                                      1,200 มก.

ผู้ใหญ่ ( 25-50 ปี )                  1,000 มก.

คนแก่                                     1,000 มก.

สตรีหลังหมดประจำเดือน      1,500-2,000 มก.

แคลเซียมจึงเป็นสารอาหารจำเป็น ที่คนไทยจำนวนมากขาดแคลนนอกจากการดื่มนมทุกวันแล้ว อาหารเสริมแคลเซียมเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้บริโภคเช่นกัน

ประโยชน์

👉เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง

👉ป้องกันโรคกระดูกพรุน และความผิดปกติของกระดุก

โรคหรือภาวะที่อาจแนะนำ

👉ควรแนะนำทุกคนที่ดื่มนมน้อย

👉ผู้ที่มีอาการตะคริวบ่อย และมักเป็นอาการเตือนของการขาดแคลเซียม

👉ผู้สูงอายุที่มีกระดูกและข้อเสื่อม

ข้อห้าม-ข้อควรระวัง

👉ผู้ที่มีประวัติ หรือเป็นโรคนิ่วในไต หรือทางเดินปัสสาวะ เพราะอาจะเพิ่มการขับแคลเซียมในปัสสาวะทำให้นิ่วโตเร็วได้ในผู้ที่มีการขับแคลเซียมทางปัสสาวะมากเกินไป

คำแนะนำเพิ่มเติม

👉รับประทานได้ ในเด็กโต (อายุกมากว่า 9ปี ที่กลืนเม็ดยาได้ ไม่อันตรายจากการติดคอ) เพราะเข้าสู่วัยรุ่น ความต้องการของแคลเซียมจะเป็น 1200 ม.ก ต่อวัน 

👉สำหรับเด็กเล็ก อายุ 3-8 ปี แนะนำให้รับประานแคลเซียมชนิดเม็ดเคี้ยว

 

รับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมหรือหลังอาหารเย็น 

แคล-ดี-แมก กระปุก 60แคปซูล ราคา 248 บาท

แคล-ดี-แมก 600 กระปุก 60แคปซูล ราคา 420 บาท

 


แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า