ลิงก์สมัครสมาชิก

คอลลาเจน แม็กซ์ บำรุงผิว บำรุงเล็บ ผม ลดริ้วรอย

 


ประโยชน์ของคอลลาเจนแม็กซ์

ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอย เพิ่่มความนุ่มนวลชุ่มชื่น และความยืดหยุ่นให้แก่ผิวพรรณ

ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการแก่ของเซลล์ ช่วยเพิ่่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน

ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร

เสริมภูมิคุ้มกันของผิวต่อเชื้อโรค มลภาวะ ฟื้นฟูสภาพผิวที่ถูกทำลาย

เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตบริเวณผิวหนัง ทำให้ผิวสดใส

ช่วยยับยั้งการเกิดไขมันไม่ดี LDL

ป้องกันโรคเหน็บชา บำรุงประสาทและเสริมสร้างบำรุงเยื่อบุผิว

ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

เพิ่่มความแข็งแรงของเส้นผมและเล็บ ไม่เปราะแตกง่าย

ลดการอักเสบของข้อ ใส่ส้นสูง ยืนเดินนาน

บำรุงกระดูกอ่อนให้แข็งแรง

โรคหรือภาวะที่อาจแนะนำ

ใช้ได้กับทุกคน

ผู้สูงอายุ

สตรีวัยทอง

โรคข้อเข่าเสื่อม

เพื่อบำรุงผม

นักกีฬา

กระปุก 30 แคปซูล ราคา 600 บาท

กินคอลลาเจนให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

§  ดื่มน้ำตามมากๆ : คอลลาเจน ต้องการสะลายในการดูดซึมเข้าร่างกาย หากร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่ไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะไม่สามารถดูดซึมไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้

§  รับประทานคอลลาเจนกับวิตามินซี ควบคู่ด้วย : วิตามินซี มีส่วนช่วยในการดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด เราจึงควรบริโภคคอลลาเจนควบคู่กับอาหารที่มีวิตามินซีสูง

§  รับประทานคอลลาเจนขณะท้องว่าง : มีงานวิจัยระบุไว้ว่า การเลือกบริโภคคอลลาเจนชนิดเม็ด หรือชนิดน้ำ ควรรับประทานในช่วงเช้าขณะที่ท้องว่าง หรือก่อนรับประทานอาหารเช้า 30 นาที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมคอลลาเจนที่ดียิ่งขึ้น

§  รับประทานคอลลาเจนก่อนนอน : ในช่วงเวลาก่อนเข้านอน จะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของเราสามารถดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพและดีที่สุด

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับคอลลาเจน

คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง มีส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวพรรณมีสุขภาพดี เป็นตัวช่วยสร้างความตึงกระชับให้กับผิว ผิวหนังจะมีการเสื่อม สภาพได้ด้วยสาเหตุหลักๆ 2 ประการคือ การเสื่อมตามวัย และเสื่อมเนื่องจากผลกระทบจากสภาวะแวดล้อม ทำให้มีผลกระทบต่อผิวพรรณ เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวหมองคล้ำ ไม่เต่งตึงที่สำคัญ คือ กลไกของความเสื่อมที่ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นจากทั้งสองสาเหตุนี้เกิดจากเส้นใยคอลลาเจน (Collagen fibers) ที่ประสานกันเป็นเส้นใยอยู่ใต้ชั้นผิวหนังแท้มีการเสื่อมลง

 • ผิวหนังของคนเรา ปกติแล้วแบ่งเป็น 3 ชั้นคือ 

1. ผิวหนังชั้นกำพร้า (Epidermis) เป็นผิวชั้นนอกสุด ประกอบด้วยเซลล์ผิวหนัง (Keratinocyte) ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างสารเคอราติน (Keratin) ปกคลุมผิวหน้าของผิวหนังเป็นชั้นขี้ไคล ขั้นหนังกำพร้านี้ทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นให้กับพื้นผิว ป้องกันเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย รักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่

2. ผิวหนังแท้ (Dermis) เป็นผิวชั้นใน ประกอบด้วยส่วนที่เป็นเส้นใยประสานกันไปมาคือ โปรตีนเส้นใดของคอลลาเจน (Collagen fibers), โปรตีนเส้นใยอีลาสติก (Elastic fibers) และโปรตีนเส้นใยร่างแห (Recticulum fibers) นอกจากนี้ยังมีกล้ามเนื้อ เส้นเลือด เส้นประสาทต่างๆ ที่รับความรู้สึกอยู่ด้วย

3. ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutis) ทำหน้าที่รองรับผิวหนังให้คงรูปร่าง ช่วยลดการกระทบกระแทก และเป็นแหล่งพลังงานของร่างกายยามขาดแคลนพลังงาน (อ้างอิงที่ 1,2) คอลลาเจน (Collagen) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก คือ คอลลา(Kolla) ซึ่งแปลว่ากาว คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ประสานกันเป็นเส้นใยอยู่ใต้ชั้นผิวหนังแท้ ทำหน้าที่เสริมความเรียบตึงให้แก่ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูเรียบ เนียน และทำงานคู่กับโปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่ชื่อ อีลาสติน (Elastin) ในขณะที่คอลลาเจนมีหน้าที่เสมือนโครงร่างผิว อีลาสตินก็ทำหน้าที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิว

ในวัยเด็กคอลลาเจนยังไม่เสื่อมสลายและมีจำนวนมาก จึงทำให้เห็นว่าเด็กๆ หรือวัยรุ่นที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มสาวมีผิวหนังที่เต่งตึง แต่เมื่อมีวัยมากขึ้นเส้นใยคอลลาเจนเหล่านี้จะเสื่อมสลายและมีปริมาณลดลง ทำให้ชั้นผิวหนังยุบตัวลง อันเป็นต้นเหตุของความเหี่ยวย่นและริ้วรอย อย่างไรก็ตามเราสามารถเสริมสร้างคอลลาเจนให้แก่ร่างกายได้เพื่อลดรอยเหี่ยวย่น 

ด้วยการรับประทานคอลลาเจน หรือวิธีการฉีดคอลลาเจนเข้าใต้ชั้นผิวหนังแท้ แต่วิธีการฉีดนั้นค่อนข้างจะยุ่งยากเพราะต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญดังนั้น วิธีการรับประทานจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด


แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า