ลิงก์สมัครสมาชิก

♦ วีทกราส ต้นอ่อนข้าวสาลี ช่วยป้องกันโลหิตจาง เสริมภูมิคุ้มกัน มีใยอาหารช่วยชะล้างสารพิษในร่างกาย

 

ประโยชน์ของวีทกลาส สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ

1. 1. อุดมไปด้วยวิตามิน เอนไซม์ ซึ่งร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้ทันที

2. 2. มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงจากสารก่อมะเร็งต่างๆ

3. 3. ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น ช่วยชะล้างสารพิษออกจากร่างกาย

4. 4. ช่วยรักษา และบรรเทาอาการท้องผูกโดยเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้

5. 5. ต้านแผลในกระเพาะอาหารและบรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน IBS เนื่องจากคุณสมบัติการเกิดโรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้อีกทางหนึ่งด้วย

6. 6. ป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจาง ช่วยเพิ่มระดับฮีโมโกลบิน ช่วยยืดระยะเวลาการถ่ายเลือดออกไป และช่วยลดปริมาณเลือด ที่ใช้ในการถ่ายเลือด รวมถึงช่วยลดจำนวนครั้งในการถ่ายเลือดได้ในคนไข้ที่เป็นธาลัสซีเมีย

กิฟฟารีน วีทกราส 1 แพ็ค 10ซอง ราคา 340 บาท

1ซอง ชงกับน้ำเย็น 1 แก้ว




วีทกราส  ต้นอ่อนข้าวสาลี

วีทกราส (Wheat grass) เป็นต้นอ่อนของข้าวสาลี มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Triticum aestivum มีประวัติการใช้มาอย่างยาวนานกว่า 5,000 ปีมาแล้วตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ซึ่งใช้ในด้านการบำรุงสุขภาพ และเป็นยาอายุวัฒนะ การศึกษาในด้านพฤกษเคมี (Phytochemical) พบว่า น้ำวีทกราสนี้มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ กรดอะมิโน หลายชนิด รวมถึงคลอโรฟิลด์ด้วย

มีการใช้น้ำวีทกราสในการรักษาโรคต่างๆที่เกี่ยวกับกระเพาะและลำไส้มานานกว่า 30 ปีแล้ว และมีงานวิจัยเชิงทดลองแบบมีกลุ่มควบคุม ที่ทำเกี่ยวการศึกษากับโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ (Ulcerative Colitis)   ซึ่งเป็นโรคที่เกิดเฉพาะบริเวณลำไส้ใหญ่เท่านั้น โดยในระยะเฉียบพลันของโรค ผู้ป่วยจะมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง ถ่ายปนมูกหรือเลือดสด อาการแสดงขึ้นอยู่กับความรุนแรงและตำแหน่งของการอักเสบ หากเกิดที่ลำไส้ใหญ่ส่วนปลายสุด จะมีอาการปวดถ่ายตลอดเวลา การวิจัยนี้ทดลองคนไข้ โดยดื่มน้ำวีทกราสวันละ 100 มิลลิลิตร ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 เดือน พบว่า ช่วยบรรเทาอาการโดยรวมของโรคให้ดีขึ้น ลดความรุนแรงของการถ่ายเป็นเลือด และจำนวนครั้งของการบีบตัวของลำไส้ได้อย่างมีนัยสำคัญ

            ในการศึกษาเกี่ยวกับผู้ป่วยที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia) ซึ่งเป็นโรคความผิดปกติทางพันธุกรรมของเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดอาการโลหิตจาง มีงานวิจัยที่ทำกับผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคธาลัสซีเมียในระดับรุนแรงจำนวน 40 คน  โดยให้รับประทานวีทกราสชนิดเม็ด พบว่า มีศักยภาพที่จะเพิ่มระดับฮีโมโกลบิน ช่วยยืดระยะเวลาการถ่ายเลือดออกไป และยังช่วยลดจำนวนเลือดที่ใช้ในการถ่ายเลือดด้วย อีกงานวิจัยหนึ่ง พบว่า การให้คนไข้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียในระดับรุนแรง ดื่มน้ำวีทกราส 100 มิลลิลิตร ทุกวัน เป็นระยะเวลา 1 ปี ช่วยลดปริมาณเลือดที่ใช้ในการถ่ายเลือด รวมถึงช่วยลดจำนวนครั้งในการถ่ายเลือดลงอีกด้วย

นอกจากนี้น้ำวีทกราสยังป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจาง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการได้รับเคมีบำบัดได้ดี โดยพบว่าในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ดื่มน้ำวีทกราส วันละ 60 มล. ตลอดระยะเวลาการได้รับเคมีบำบัด ทั้ง 3 รอบ ช่วยป้องการเกิดภาวะโลหิตจาง (anemia) ได้ดี มีผลเพิ่มปริมาณฮีโมโกลบินในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่มีผลต่อการตอบสนองการได้รับการรักษาจากเคมีบำบัดของผู้ป่วย และการศึกษาในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ ที่ดื่มน้ำวีทกราส วันละ 30 มล. ติดต่อกัน 6 เดือน พบว่าช่วยเพิ่มปริมาณฮีโมโกลบิน เกล็ดเลือด และเพิ่มภูมิต้านทานได้ดี ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

การศึกษาฤทธิ์อื่นที่น่าสนใจ เช่น ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในอาสาสมัครที่ได้รับสารก่ออนุมูลอิสระ BPA (biphenol-A) ผ่านทางสิ่งแวดล้อม เมื่อให้ดื่มวีทกราส วันละ 100 มล. ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ พบว่าปริมาณสาร BPA ในปัสสาวะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยแนวโน้มการลดลงของ BPA สัมพันธ์กับระยะเวลาที่ดื่มวีทกราส

ปัจจุบัน มีการพัฒนาวีทกราสขึ้นมาในรูปเครื่องดื่มชนิดชงละลายทันที เพื่อความสะดวกของผู้บริโภค มีการเสริมคุณประโยชน์เพิ่มเข้าไปโดยผสมสารอาหารต่างๆที่มีประโยชน์เข้าไป เช่น วิตามิน ใยอาหารอินนูลิน ผักและผลไม้รวม ชาเขียว เพื่อเสริมคุณค่าของผลิตภัณฑ์ให้มากยิ่งขึ้นจะเห็นได้ว่าวีทกราสในรูปเครื่องดื่มชนิดชง มีประโยชน์หลากหลาย ทั้งในแง่ของการเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดงในผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจาง ป้องกันการเกิดอันตรายจากอนุมูลอิสระ และรักษาอาการลำไส้อักเสบ โดยไม่พบความเป็นพิษหรืออาการข้างเคียงใดๆ

แต่อย่างไรก็ตามควรระมัดระวังการใช้ในเด็กอ่อน หรือสตรีมีครรภ์ เนื่องจากยังไม่มีรายงานด้านความปลอดภัย อีกน้ำวีทกราสจะมีกลิ่นเหม็นเขียวคล้ายหญ้า จึงอาจกระตุ้นให้เกิดการคลื่นไส้อาเจียนในผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นดังกล่าวได้


แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า